Powered By Blogger

วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Air card

Air card คืออุปกรณ์ใหม่ที่มีไว้สำหรับต่อเชื่อม Notebook เข้ากับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไร้สายของระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ นั่นคือ ระบบ EDGE กับ 3G
ปัจจุบันนี้เมืองไทยยังมีแค่ EDGE โดยผู้ให้บริการ AIS และ DTAC ให้บริการเชื่อมต่อ EDGE ที่ความเร็วสูงสุด 220Kbps แต่การใช้งานจริงจะอยู่ระหว่าง 100-200Kbps
โดยความเร็วขนาดนี้สามารถใช้ เข้า web ฟังเพลง เล่นเกมส์ chat พร้อมดู webcam ได้สบาย แต่ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า EDGE นั้นไม่ต่างจากคลื่นมือถือตรงที่ว่าในบางช่วงเวลาสัญญาณจะอ่อนหรือหายไป ซึ่งจะทำให้ net เดินสะดุด ดังนั้นหากนำไปใช้เล่นเกมส์จำพวกที่ว่าห้ามเน็ตเดินสะดุดเลยสักช่วงวินาที เดียว ทางเราขอแนะนำให้ใช้การเชื่อมต่อแบบสาย Hi-Speed จะทำให้เล่นเกมส์ได้ stable กว่า
ความเร็วของ EDGE นั้นยังไม่สามารถใช้ดู TV หรือ Youtube ได้แบบต่อเนื่อง โดยภาพที่ได้จะสะดุดเป็นช่วงๆ จำเป็นต้องให้ download เสร็จก่อนค่อยดูทีเดียว ดังนั้นหากต้องการดู TV ด้วย
Air card จำเป็นจะต้องรอระบบ 3G เท่านั้น ซึ่งระบบ 3G นี้ จะวิ่งที่ความเร็ว 3.6-7.2Mbps และสามารถใช้ดู TV ได้ 3-5 ช่องพร้อมกันแบบสบายๆ ไม่มีติดขัด
ก่อนซื้อ Air card ทุกตัวขอแนะนำให้ตรวจสอบ slot ที่ติดมากับ Notebook ก่อน โดย Air card ในปัจจุบัน จะมีทั้งหมดจำนวน 3 แบบ ซึ่งจะใช้ slot ของ notebook ที่มีรูปร่างต่างกัน
- แบบแรกคือแบบดั่งเดิมนั่นคือใช้ slot PCMCIA ซึ่งเป็น slot ทั่วไปที่มีอยู่ใน notebook รุ่นก่อนปี 2549 จะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดความกว้าง 54 mm แต่รุ่นนี้จะมีราคาถูกที่สุด
- แบบที่สองจะเรียกว่า Express card ซึ่งจะคล้ายๆกับแบบแรก แตกต่างกันตรงที่ รูปทรงจะเป็นสี่เหลี่ยมมีรอยหยักเข้าไปทางด้านหลังด้วย แต่ขนาดความกว้างยังเท่าเดิมคือ 54 mm จะพบเห็นได้ตาม notebook รุ่นใหม่ๆส่วนมากที่ผลิตหลังปี 2549
- แบบสุดท้าย แบบที่สาม จะเป็นรุ่นใหม่ที่สุด และมีขนาดเล็กที่สุด ซึ่งจะมีความกว้างอยู่เพียงแค่ 34 mm เท่านั้น จะเรียกกว่าเป็น Express card รุ่นใหม่ก็ได้ และรุ่นนี้จะมีราคาแพงกว่าสองรุ่นที่กล่าวมา
ทั้งนี้ ถ้าทีคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง การเลือกใช้ Air card ที่เป็นระบบ USB จะเหมาะสมที่สุด เพราะจะสามารถนำไปใช้ได้กับคอมทุกเครื่อง ที่มี port USB นั่นเอง
ข้อดีของการใช้ Air card เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของมือถือ
- Aircard ไม่มีแบตเตอรี่ในตัว เนื่องจากใช้ไฟฟ้าจากเครื่องคอมพิวเตอร์มาเลี้ยง ในขณะที่โทรศัพท์มือถือยังจำเป็นจะต้องใช้แบตเตอรี่ แล้วโดยเฉพาะถ้าเชื่อมต่อกับกับคอมพิวเตอร์ผ่านระบบ Bluetooth จะกินไฟค่อนข้างมาก
- ถ้ามีการรับสายและโทรออก โดยปกติโทรศัพท์จะไม่สามารถใช้งาน GPRS/EDGE ได้ และถ้าใช้โทรศัพท์มือถือในการเชื่อมต่อกับกับคอมพิวเตอร์ เวลาใช้งาน GPRS/EDGE ก็จะไม่สามารถใช้งานในส่วนของรับสายและโทรออกได้เช่นกัน ทางออกก็คือ จะต้องทำ multi-sim เพื่อที่สามารถใช้งานได้ทั้งส่วนของรับสายและโทรออกและใช้งาน GPRS/EDGE ในเวลาพร้อมๆกันนั่นเอง
- นอกจากนั้น Air card จะให้ความสะดวกสบายมากกว่า เพราะ มีขนาดเล็ก สามารถพกพา ใส่ไว้ใน Notebook ได้ตลอดเวลา และพร้อมใช้งานทันที ในขณะที่โทรศัพท์มือถือนั้น จะมีขนาดใหญ่กว่า ต้องเชื่อมต่อผ่านสายดาต้า หรือ Infrared/Bluetooth/Wifi ก่อนการใช้งาน
ข้อมูลด้านเทคนิคอื่นๆอื่นๆ
- เครือข่าย AIS มีการทดสอบระบบสัญญาณ 3G ณ ขณะนี้ 2 จุด คือ ห้างสยามพารากอน และห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ด้วยคลื่น 900 MHz และถ้าเปิดใช้ระบบอย่างสมบูรณ์จะใช้คลื่น 2100 MHz
- เครือข่าย DTAC และ TRUE จะมีการให้บริการ 3G ประมาณกลางปีนี้ ด้วยคลื่น 850 MHz
- เครือข่าย 3G ที่ใช้กันทั่วโลกเป็นคลื่น 850, 1900 และ2100 MHz (เป็นคลื่นที่นิยมใช้กัน)